ประวัติความเป็นมา

ต้นกำเนิดของไพ่ยิปซีนั้นลึกลับเกินกว่าจะหาข้อพิสูจน์ที่แท้จริงได้ว่ามาจากประเทศใด เพราะต่างก็อ้างอิงหลักฐานแตกต่างกันออกไป ไพ่ชุดเก่าแก่ที่สุดถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1392 โดยคิง ชาร์ลที่6แห่งฝรั่งเศส โดยให้จิตรกรผู้ลงสีตัวไพ่ทั้ง3ชุดคือแจ็คคิว กรินอร์ พบเจอเพียง17 ใบ แต่สืบรู้ว่าไพ่มีมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากมันเป็นของต้องห้ามในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ในปีค.ศ.1376 ส่วนไพ่ชุดแรกที่ยังคงเหลืออยู่ครบคือไพ่ชุด Visconti Deck วาดลงสีโดย Bonifacio Bembo ไพ่ที่สวยงามเหล่านี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่15 และตำนานเก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบเป็นของบราเดอร์ โยฮัน แห่งเบรคเฟลด์ สวิตเซอร์แลนด์ เขียนในปีค.ศ 1377

ไพ่ยิปซีนั้น ถูกขนานนามว่า "ไพ่แห่งชีวิต" ในศตวรรษที่18 นักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อ Antoine Court De Gebelin ได้เรียกไพ่ยิปซีว่าเป็น The Book Of Thoth เพราะภาพบนไพ่แสดงถึงความคิดอ่านอย่างลึกลับของผู้ที่นับถือศาสนาอียิปต์ ในปี 1780 ชาวฝรั่งเศสนามว่า เชอบรัน ได้กล่าวว่าไพ่ Tarot น่าจะถือกำเนิดขึ้นที่อียิปต์ เพราะบริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ของอียิปต์ คือศูนย์รวมอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ และได้ก่อกำเนิดพีรามิดกับสฟิงซ์ ที่เต็มไปด้วยความลี้ลับมากมายด้วย ซึ่งคำกล่าวนี้ก็ตรงกับข้อสันนิษฐานของนักวิชาการหลายคน เชื่อกันว่าภาพที่ปรากฎในไพ่ Tarot มีความเกี่ยวพันกับคัมภีร์โบราณของอียิปต์ แม้แต่พวกอียิปต์ที่ต้องเดินทางเร่ร่อนอยู่เป็นประจำก็ยังพกพาไพ่ Tarot นี้ติดตัวเสมอ ทำให้โลกภายนอกมีการค้นพบไพ่ Tarot นี้ขึ้นมาหรือเรียกกันว่าไพ่ยิปซีนั่นเอง

ในศตวรรษที่14 หญิงยิปซีนางหนึ่งนำไพ่ยิปซี(Tarot Cards)ไปถวายความสำราญแด่กษัตริย์ เธอสามารถอธิบายรายละเอียดของผู้คนรอบข้างพระองค์อย่างชัดแจ้ง และบอกพระองค์ถึงเหตุการณ์ในอนาคตอย่างแม่นยำ จนมันได้รับความนิยมมากในราชสำนัก มากจนกษัตริย์สั่งห้ามมิให้มีไพ่ยิปซีอยู่ในราชสำนักอีกต่อไป แต่นั้นเป็นต้นมาไพ่ยิปซีก็อยู่ในกระแสของความนิยมและสั่งห้ามสลับกันไปตามยุคสมัย และกลับมาได้รับความนิยมต่อมาเรื่อยๆไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน และมีการวาดลงสีดีไซน์แตกต่างกันออกไปแต่ความหมายของไพ่ยังคงเหมือนกันทุกสำรับ มีไพ่แทนตัวบุคคลเป็นพระราชา พระราชินี อัศวิน และมหาดเล็ก จึงอาจกล่าวได้ว่าต้นกำเนิดของไพ่ยิปซีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ พระราชวงศ์ ขุนนาง และชนชั้นสูง ในสมัยก่อน

ผู้ทำนายไพ่Tarot ที่มีชื่อเสียงได้แก่ Marie Anne Adelaide Lenormand เกิดในฝรั่งเศส ปี พ.ศ. 2265 (ค.ศ.1772) ความสามารถในการทำนายไพ่ยิปซีของเธอ ทำให้เธอได้เป็นที่ปรึกษาของจักรพรรดินีโยเซฟิน (Josephine)ของ นโปเลียน โบนาปาร์ท จักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส เธอทำนายเหตุการณ์สำคัญๆหลายเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ เธอร่ำรวยและเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และใช้Senseในการทำนายมาก หมอดูสมัยก่อนมักขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีSense ดังนั้นหมอดูสมัยก่อนจึงมีบทบาทเหมือนเป็นผู้วิเศษ มีพลังที่เหนือกว่าคนธรรมดา เป็นความสามารถเฉพาะตัว ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถจดจำและอ่านความหมายของไพ่แต่ละใบได้แต่ถ้าคุณไม่มีSense ก็ยากที่จะทำนายได้แม่นยำ เธอเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2386 เร็วกว่าที่เธอทำนายไว้ เธอทำนายไว้ว่าการตายของเธอเกี่ยวพันกับการมาของนกจำพวกกา แต่เธอตายด้วยโรคหัวใจวายหลังจากเห็นนกพิราบบินเข้ามาในห้อง เนื่องจากสายตาไม่ดีจึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนกกา

ไพ่ยิปซีมีกำเนิดมาก่อนไพ่ป๊อกซึ่งพัฒนามาจากไพ่ยิปซีอีกทีหนึ่ง โดย ดาบ(Swords)เทียบได้กับโพธิ์ดำ ถ้วย(Cups)เทียบได้กับโพธิ์แดง เหรียญ(Coins)เทียบได้กับข้าวหลามตัด และคทา(Wands)เทียบได้กับดอกจิก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าข้าพเจ้าสามารถใช้ไพ่ป๊อกพยากรณ์โชคชะตาได้อย่างแม่นยำเช่นเดียวกับไพ่ยิปซี แต่ไพ่ป๊อกนั้นผู้คนนิยมใช้ในการละเล่นมากกว่า ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะใช้ไพ่ยิปซีทำนายโชคชะตา เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับใช้ทำนายโชคชะตาโดยตรง นอกจากนี้การใช้ไพ่ยิปซีเพียง22ใบในไพ่ชุด Major Arcana (ความลี้ลับอันยิ่งใหญ่) ที่นิยมวาดเป็นรูปเทพเจ้าต่างๆในเทพนิยายกรีก-อียิปต์โบราณ ยังสามารถทำนายทุกอย่างในชีวิตได้อย่างแม่นยำเช่นเดียวกัน และจำนวนไพ่ยิปซีที่มีจำนวนรวมทั้งหมดมากถึง78ใบ จึงสามารถบอกรายละเอียดอันหลากหลายในการทำนายชีวิตอย่างได้มากมาย

เชื่อกันว่าไพ่ยิปซีถูกนำมาเผยแพร่โดยชนเผ่ายิปซี คือชนเผ่าเร่ร่อนชาวโบฮีเมียน (ชาวโรมานี) หรือรู้จักกันในชื่อ "ชาวยิปซี" ที่มักรวมตัวเป็นกลุ่มเดินทางเร่ร่อน พบมากในอเมริกา พวกเขาจะมีภาษาและธรรมเนียมของตัวเอง ผู้คนทั่วไปออกจะหวาดกลัวชาวยิปซีไม่น้อย โดยเฉพาะหมอดูยิปซีที่อาศัยไพ่ยิปซี กับลูกแก้วทำนายโชคชะตานั้น แม่นยำจนน่าเกรงขาม

ข้าพเจ้าเริ่มศึกษาไพ่ยิปซีด้วยตนเองตั้งแต่อายุ12ปี ทั้งตำราไทยและตำราต่างประเทศมากกว่าหลายสิบเล่มด้วยความสนใจอยากรู้ในศาสตร์ลึกลับ และความหมายที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริงของไพ่แต่ละใบ และวิธีการทำนายหลากหลายรูปแบบ เพราะแต่ละเล่มก็มีเอกลักษณ์ในการทำนายเป็นของตัวเองที่ไม่เหมือนกัน และมีประสบการณ์ต่างๆในการทำนายจากผู้คนมากมาย เริ่มต้นจากตนเองและคนใกล้ชิดก่อน ทำให้เข้าใจความหมายของไพ่แต่ละใบและวิธีทำนายอย่างลึกซึ้ง พลังจิตและสมาธิเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการทำนาย เพื่อการตีความหมายออกมาอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ไพ่ยังสามารถบอกลักษณะบุคคลได้อย่างแม่นยำมาก

เมื่อไพ่สูญเสียความใหม่ ดังนั้นปีหนึ่งๆข้าพเจ้าจึงเปลี่ยนไพ่สำรับใหม่อย่างน้อย1ครั้ง ก่อนนำไพ่มาทำนายจะต้องมีการสวดมนต์บรรจุพลังญาณจากเหล่าองค์เทพร่วมลงมาสิงสู่ในไพ่ ไพ่ที่ข้าพเจ้าชอบใช้มากเป็นพิเศษจะเป็นไพ่ที่เคลือบลายทอง ไพ่ชนิดนี้จะมีราคาสูงสุด ส่วนจะเลือกใช้ไพ่สำรับไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของพลังจิตใต้สำนึกของนักพยากรณ์ต่อไพ่สำรับนั้นๆ เพื่อความแม่นยำสูงสุดในการทำนาย

ข้าพเจ้าคิดว่าไพ่ยิปซีก็ไม่ต่างอะไรกับการเสี่ยงทายหยิบใบเซียมซีมาสักใบหนึ่ง กับการทำนายในเรื่องที่คุณอยากรู้มากๆ เพียงแต่ไพ่ยิปซีไม่ได้สื่อออกมาเป็นภาษาเขียนแต่จะสื่อออกมาให้เห็นเป็นรูปภาพนิมิต ถ้าคุณเชื่อในเรื่องของอำนาจพลังจิตที่อยากรู้ ผสมกับภาพวาดอันลึกลับในหน้าไพ่ยิปซีที่เป็นรูปเทพเจ้าต่างๆในอียิปต์โบราณ จิตวิญญาณที่สิงสู่อยู่ในไพ่ กับสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น จากประสบการณ์จริงของข้าพเจ้าในการทำนายตนเองและผู้คน ความลึกลับอาถรรพ์ของไพ่ยิปซีใช้ทำนายโชคชะตาได้อย่างแม่นยำมากกว่า90% หากเราปฏิบัติกับไพ่ยิปซีอย่างซื่อสัตย์ เก็บรักษาและดูแลไพ่เป็นอย่างดี ไพ่ยิปซีจะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ ในเวลาที่คุณอยากแก้ปัญหาชีวิตบางอย่างที่คุณอยากจะรู้เป็นอย่างดี แม้แต่ผู้ที่ไม่ทราบเวลาเกิดของตนเอง การทำนายด้วยไพ่ยิปซีจะช่วยบอกโชคชะตาให้คุณทราบได้อย่างละเอียด

สำหรับผู้ที่ต้องการจะทำนายด้วยไพ่ยิปซีในครั้งต่อๆไปควรทิ้งระยะเวลาในการทำนายให้ครบ 30 วัน ก่อน จึงค่อยกลับมาทำนายในช่วงชีวิตต่อๆไป เพราะเกณฑ์โดยทั่วไปที่ดวงชะตาจะเริ่มเปลี่ยนมักจะอยู่ในระยะเวลา 30 วัน

ระเบียบการเข้ารับการตรวจดวงกับนันท์ภัสกรณ์พยากรณ์ี 2554

1.กรุณาเตรียมบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วยทุกครั้ง บัตรอย่างอื่นใช้แทนไม่ได้

2.ผู้เข้ารับการตรวจดวงจะต้องเขียนชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด พร้อมลายเซ็นปัจจุบัน และเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้อยู่

3.ข้าพเจ้าจะทำนายอนาคตทุกเรื่องให้ท่านละ 3 เดือน ค่าครูแล้วแต่ปัจจัยของท่าน

4.ทั้งนี้ข้าพเจ้าอาจจะช่วยเหลือได้ไม่หมดทุกคน แต่จะพยายามช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถช่วยได้